PDPA Infographic
สรุป พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้เข้าใจง่าย
🎯 วัตถุประสงค์และขอบเขตของกฎหมาย
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล โดยกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนให้องค์กรต่างๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายนี้บังคับใช้กับทุกองค์กรที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย รวมถึงองค์กรนอกประเทศที่เสนอขายสินค้า/บริการ หรือเฝ้าติดตามพฤติกรรมของคนในประเทศไทย
บังคับใช้ทั่วโลก
ครอบคลุมองค์กรทั้งในและนอกราชอาณาจักรไทย หากมีการประมวลผลข้อมูลของบุคคลในไทย
👥 ผู้เกี่ยวข้องสำคัญและประเภทข้อมูล
เพื่อให้เข้าใจ PDPA ได้ดียิ่งขึ้น เราต้องรู้จักผู้มีบทบาทสำคัญ 3 ส่วน และเข้าใจความแตกต่างระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งมีระดับการคุ้มครองที่แตกต่างกัน
ความสัมพันธ์ของผู้เกี่ยวข้อง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Subject)
ผู้ควบคุมข้อมูล
(Data Controller)
มีอำนาจตัดสินใจ
ผู้ประมวลผลข้อมูล
(Data Processor)
ดำเนินการตามคำสั่ง
👤 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
🧬 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data)
ข้อมูลที่ต้องการความคุ้มครองเข้มงวดเป็นพิเศษ เช่น เชื้อชาติ, ความเชื่อทางศาสนา, ข้อมูลสุขภาพ, ประวัติอาชญากรรม
⚖️ 7 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
PDPA มอบสิทธิให้แก่เจ้าของข้อมูลในการควบคุมข้อมูลของตนเอง ซึ่งองค์กรต่างๆ ต้องพร้อมตอบสนองต่อคำขอใช้สิทธิต่างๆ เหล่านี้
📄
สิทธิในการเข้าถึง
และขอรับสำเนา
✏️
สิทธิในการแก้ไข
ข้อมูลให้ถูกต้อง
🗑️
สิทธิในการลบ
หรือทำลายข้อมูล
🚫
สิทธิในการระงับ
การใช้ข้อมูล
⛔
สิทธิในการคัดค้าน
การประมวลผลข้อมูล
➡️
สิทธิในการโอนย้าย
ข้อมูล (Portability)
🏢 หน้าที่สำคัญขององค์กร
องค์กรในฐานะผู้ควบคุมหรือผู้ประมวลผลข้อมูล มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล
ต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานฯ
72
ชั่วโมง
นับแต่ทราบเหตุ (หากมีความเสี่ยงต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล)
👮 บทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม
การไม่ปฏิบัติตาม PDPA อาจนำไปสู่บทลงโทษที่รุนแรงทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง ซึ่งมีอัตราโทษปรับที่สูงและอาจมีโทษจำคุกสำหรับกรณีร้ายแรง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้องค์กรตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูล
เปรียบเทียบค่าปรับสูงสุด
โทษทางอาญา
จำคุกสูงสุด 1 ปี
ความรับผิดทางแพ่ง
จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจริง
+ ค่าเสียหายเชิงลงโทษสูงสุด 2 เท่า